ลำนำเพลงรัก(ลูกทุ่ง+ลูกกรุง)

[ลุงสน คนสันทราย]

เพลง  น้ำตาลาไทร
พร ภิรมย์   เป็นผู้ขับร้อง
คำร้อง - ทำนอง :  พร  ภิรมย์
                     พร ภิรมย์ ยอดแห่งเจ้าพ่อเพลงแหล่ และยังเป็นนักร้องนักแต่งเพลงที่โด่งดังเป็นแบบอย่างกับนักร้องลูกทุ่งรุ่นหลังๆ หลายต่อหลายคนนอกจาก ไพบูลย์ บุตรขันแล้ว พร ภิรมย์ เป็นอีกหนึ่งที่แต่งเพลงใช้คำที่วิจิตร และมีความหมายลึกซึ้ง พร ภิรมย์ ถือเป็นอัจฉริยะความสามารถในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง, แต่งเพลง, เล่นลิเก, พากย์หนัง, แสดงภาพยนตร์, เล่นดนตรีจีน, กลอนสด และทำขวัญนาคฝีมือหรือเชิงการประพันธ์นั้น เพลงของ พร ภิรมย์ มีมากมายหลายเพลง ส่วนมากจะเป็นนิทานชเรื่องนำมาจากธรรมบท รวมถึงนิยายอิงประวัติศาสตร์อย่างสามก๊ก พร ภิรมย์สามารถแปลงเป็นเพลงแหล่ได้อย่างน่าฟังผลงานของ พร ภิรมย์ที่ร้องเอง แต่งเองมีประมาณ 500 เพลงได้แก่ ดาวลูกไก่, บัวตูมบัวบาน, จำใจจาก, น้ำตาลาไทร, เห่ฉิมพลี, วังแม่ลูกอ่อน, ไม้หลักปักเลน เป็นต้น
 
 
 
พร ภิรมย์มีชื่อจริงว่า "บุญสม มีสมวงษ์"
 
เกิดเมื่อวันพฤหัสที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2471 เป็นบุตรของนายประเสริฐ และนางสัมฤทธิ์ มีสมวงษ์  พร ภิรมย์
เรียนที่โรงเรียนวัดบพิตรภิมุข และจบการศึกษาสามัญชั้นสูงสุด คือมัธยม 3 หลังจากนั้นจึงเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิง โดยเป็นนักแสดงลิเก ทำขวัญนาค พากย์หนัง และบรรเลงดนตรีไทย แต่มีชื่อเสียงมากคือ การแสดงลิเก ซึ่งใช้ชื่อคณะว่า "บุญสม อยุธยา" จนกระทั่งได้พบกับครู "มงคล อมาตยกุล"  จึงได้มา สังกัดวงดนตรีลูกทุ่ง "จุฬารัตน์" และได้มีผลงานด้านการขับร้องเพลง และการประพันธ์เพลง โดยเฉพาะเพลงแหล่ต่างๆ จนมีชื่อเสียงมากในวงการลูกทุ่งไทยสมัยนั้นพ.ศ.2524 พร ภิรมย์ ได้บวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ เพื่อจะแผ่ส่วนกุศลถวายแด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่นำเรื่องของพระองค์มาเขียนเป็นบทเพลงโดยตั้งใจจะบวช 3 เดือน แต่เมื่อถึงกำหนดลาสิกขาบท พร ภิรมย์ ก็มิได้ลาสิกขาบทแต่อย่างใดจนกระทั่งปัจจุบันนี้ผลงานการขับร้องเพลงที่บันทึกแผ่นเสียงประมาณ 200 เพลงโดยเป็นผู้ที่ประพันธ์เอง ประมาณร้อยละ 95 เคยได้รับรางวัลพระราชทานแผ่นเสียงทองคำถึง 2 ครั้ง คือ ผลงานเพลงชื่อ "ดาวลูกไก่" และเพลง "บัวตูมบัวบาน"  ผลงานเพลงลูกทุ่งของ หลวงพ่อพร ภิรมย์ อัน
ทรงคุณค่ามาก
 
ลำนำเพลง

โอ้แก้วตา ลาแล้ว แววสะอื้น
จำใจฝืน ยืนรอ ท้อหวั่นไหว
สัญญาเรา เจ้าลืม ไม่ปลื้มใจ
ทั่วถิ่นไพร ตามหา อย่างอาวรณ์

ลาแล้วหนอ จากไกล ไปลาลับ
จะไม่กลับ คืนหวน ชวนหลอกหลอน
ไร้แม้เงา เจ้านั้น พลันตัดรอน
โฉมบังอร ทิ้งพี่ตรม ใต้ร่มไทร...

บทประพันธ์มาลัยลูกทุ่ง ของ  พันทอง แห่งบ้านกลอนไทย
คนไทยเรดืโอ102.75สันทรายเชียงใหม่  ต้องขอขอบคุณมาก ๆ นะครับ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=azkyVsF5X48" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=azkyVsF5X48</a>

[ลุงสน คนสันทราย]

เพลง จำใจจาก 
พร ภิรมย์  เป็นผู้แต่งเอง / ขับร้องเอง
                      เอกลักษณ์ความโดดเด่น ในเพลงของ พร ภิรมย์ ที่หาใครเสมอเหมือน ก็คือการเขียนเพลงในแนวนิทานชาดก เพลงแฝงธรรมะ และเพลงลีลาไทย ใช้ภาษาพลิ้วสวยงาม จนบางคน ยกย่องเขาว่า  คีตกวี  เขาใช้ดนตรีไทยเดิมเป็นพื้นฐาน ด้วยเทคนิคการแหล่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร โดยเพลงที่ได้รับความนิยมก็อย่างเช่นเพลง "บัวตูมบัวบาน"  , "ดาวลูกไก่" , "ดาวจระเข้" , "วังแม่ลูกอ่อน" , "กลับเถิดลูกไทย", จำใจจาก, น้ำตาลาไทร, เห่ฉิมพลี, วังแม่ลูกอ่อน, ไม้หลักปักเลน  เป็นต้น
ลำนำเพลง
จำใจจาก  กานดา  มาด้วยรัก
แม่ยายชัก  ไม่ปอง  จึงหมองไหม้
ถูกตราหน้า  ด่าข่ม  ระทมใจ
เมาเมื่อไหร่  ไล่หนี  เรานี้อาย

จำใจจาก  นงเยาว์  เจ้าอย่าหวั่น
จงสุขสันต์  เถิดหนอ  ละออฉาย
พี่มันจน  ต้อยต่ำ  ช้ำใจกาย
ลาแม่ยาย  เพราะจน   ทนกล้ำกลืน
-------------------------------

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=59VfTpJt39Q" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=59VfTpJt39Q</a>

บทประพันธ์มาลัยลูกทุ่ง ของ  พันทอง แห่งบ้านกลอนไทย
คนไทยเรดืโอ102.75สันทรายเชียงใหม่  ต้องขอขอบคุณมาก ๆ นะครับ

[ลุงสน คนสันทราย]

เพลง สาวผักไห่ 
ชาตรี ศรีชล   เป็นผู้ขับร้อง
                    ชาตรี ศรีชล ร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียงเพลงแรกคือเพลงบัวหลวง ปีพ.ศ. 2512 (ซึ่งแต่งไว้ก่อนเข้าวงการ) ส่วนผลงานเพลงที่สร้างชื่อมีมากมาย อาทิ "สมัครรักสมัครแฟน" ,"ช้ำรักจากเมืองชล" "สาวผักไห่" "วอนแฟนเพลง" , "โฉมนาง" , "เมาเหล้าเมารัก" , "รอไม่ไหว" , "สาวอาปาเช่" ฯลฯ  ชาตรี ศรีชล ถือว่าเป็นนักร้องอัจฉริยะคนหนึ่ง ในวันหนึ่งๆ สามารถประพันธ์เพลงได้หลายสิบเพลงเลยทีเดียว โดยเฉพาะถ้าได้ดื่มสุราด้วยแล้ว ว่ากันว่าสมองแล่นเขียนเพลงได้อรรถรสยิ่งนัก เพลงที่ชาตรีประพันธ์ไว้มีอยู่ราว 200 เพลง โดยเพลงที่ยังไม่เคยบันทึกเสียงมีราว 100 เพลง
                   ก้าวเข้าสู่วงการเพลงลูกทุ่งด้วยการไปสมัครร้องเพลงกับวง "รวมดาวกระจาย " ของครูสำเนียง ม่วงทอง ในยุคแรก ก่อนออกจากวงครูสำเนียง ก็มาสมัครอยู่กับวงของครูสุรพล สมบัติเจริญ (ขณะนั้นครูสุรพลเสียชีวิตแล้ว และมีสีนวล สมบัติเจริญเป็น หัวหน้าวง) เมื่อปลายปี พ.ศ. 2511 โดยแต่งเพลงและช่วยเคาะจังหวะการร้องเพลงให้สีนวลในช่วงแรกๆคือเพลง "รักหน่อยนะ" จนสีนวลมีชื่อเสียง เมื่อปี พ.ศ. 2513 ออกจากวงสีนวล สมบัติเจริญ มาตั้งวงเป็นของตัวเอง แต่ทำวงแค่ปีเดียวมีปัญหาต้องยุบวงเนื่องจากโดนจับข้อหาหนีทหาร ออกจากซังเต มาตั้งวงใหม่ และเกิดอีกทีด้วยเพลง "ไปเอาเหล้ามา" จากงานประพันธ์ของตัวเอง หลังจากจากเลิกวงแล้วก็ร้องเพลงตามห้องอาหารและรับเชิญเป็นบางโอกาส
                   จากบทเพลง "ช้ำรักจากเมืองชล"   ที่เนื้อหาของเพลง  ส่วนหนึ่งมีว่า "พี่ยากจนจากชลบุรี ขอน้องปราณีสงสารพี่หน่อย"  แต่เจ้าตัว ไม่ชำรักแน่ เพราะคนชื่อ " ปราณี " ที่ปรากฏในบทเพลง  คือคู่ชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งสองมีบุตรด้วยกัน 4 คน ชาย 1 คน หญิง 3 คน
ลำนำเพลง
โอกาสหน้า ฟ้าใหม่ พี่ไปช่วย        พาคนสวย คราดดำ ทำนาไร่
พี่คนจร ขาดคู่ ชู้ทางใจ                 สาวผักไห่ โปรดเมตตา เอื้ออารี

โอกาสหน้า เข้าพรรษา เทศกาล          รอหน่อยนะ นงคราญ อย่าพาลหนี
พี่คนกรุง มุ่งหวัง ฝังฤดี                กลับอีกที มาขอหมั้น ขวัญฤทัย
-------------------------------

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=HIvSJJ1nUwY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=HIvSJJ1nUwY</a>

บทประพันธ์มาลัยลูกทุ่ง ของ  พันทอง แห่งบ้านกลอนไทย
คนไทยเรดืโอ102.75สันทรายเชียงใหม่  ต้องขอขอบคุณมาก ๆ นะครับ

[ลุงสน คนสันทราย]

เพลง ทุ่งนางคอย
พุ่มพวง ดวงจันทร์  เป็นผู้ขับร้อง
คำร้อง-ทำนอง : ก้อง กาจกำแหง
เรียบเรียง : สมปอง เปรมปรีดิ์
อัลบั้ม : แก้วตาดวงใจ ชุดที่ 2
เพลง..ทุ่งนางคอย..นักร้องต้นฉบับ คือ ..พุ่มพวง ดวงจันทร์..
 "ฝน ธนสุนทร" นำมาขับร้องใหม่
และสามารถถ่ายทอดบทเพลงนี้ไว้ได้อย่างยอดเ¬ยี่ยมเหมือนกัน
                หลายปี แห่งความทรงจำ..ปัจจุบันนี้คงจะ¬หายากแล้ว ควายที่เคยไถนา..ก็เป็นความเหล็¬กไปหมด..นกเอี้ยงเลี้ยงความเฒ่า¬ก็จะเป็นเพียงท่องในบทอาขยาน..ข¬องนักเรียนเท่านั้น..ทุกวันนี้เปลี่ยนไปหมด..วัฒนธรรมต่างๆ กำลังจางไปหมดกับ...เทคโนโลยี..ที่กำลังล้างสมองคนฉลาดไปหมด¬..ให้เดินตาม...โลกแห่งโลกาภิวัตน์..
ลำนำเพลง
..อุษาสาง   พรางแสง   แจ้งวันใหม่
หลายคืนแล้ว   คิดไป   หัวใจฝ่อ
รักเคยชื่น   คืนวัน   มีฝันคลอ
หายไปไหน   แล้วหนอ   น้ำคลอตา...
...เธอห่างหาย   หลายคืน   ใจฝืนนับ          รอวันกลับ   เคียงใกล้   เหมือนไห้หา
รอรักสวย   ด้วยฝัน   จำนรรจา          เฝ้ารอเธอ   กลับมา   รักษาใจ...

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=HFnU68f7dJs" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=HFnU68f7dJs</a>
บทประพันธ์มาลัยลูกทุ่ง ของ  รัตนาวดี แห่งบ้านกลอนไทย
คนไทยเรดิโอ102.75สันทรายเชียงใหม่  ต้องขอขอบคุณมาก ๆ นะครับ

[ลุงสน คนสันทราย]

 
เพลง    
รักพี่จุดจุดจุด
ศิลปิน      พาเมล่า เบาว์เด้นท์
   
   
   
   
   
ในปี พ.ศ. 2535 บริษัท SP.SUPPAMIT ได้เปิดตัวศิลปินคนใหม่  ในชื่อ พาเมล่า เบาว์เด้น  ซึ่งจากผลงานเพลง ในอัลบั้มชุดแรก ที่ใช้ชื่ออัลบั้ม ว่า ทอร์นาโด  ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง จากความนิยม ของผู้ฟังทั่วประเทศ ที่มีต่องานเพลง  ในอัลบั้มชุดแรก ของสาวน้อยน่ารักท่านนี้ ก็ได้ส่งให้ชื่อ  ของ พาเมล่า เบาว์เด้น เป็นที่รู้จัก  และได้รับความนิยม ไปทั่วประเทศ โดยในฐานะนักร้อง นักแสดง นางแบบวัยรุ่น สาวน้อยน่ารักท่านนี้  ได้มีผลงานในวงการบันเทิง ให้ได้ติดตามรับชม กันอย่างต่อเนื่อง มาจนถึงในทุกวันนี้ สำหรับประวัติส่วนตัว ของนักร้อง นักแสดงสาวสวยท่านนี้ คุณลูกน้ำ พาเมล่า เบาว์เด้น เกิดเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2515 คุณพ่อของเธอ คือ มิสเตอร์เคนเนท เบาว์เด้น  คุณแม่ของเธอ คือ คุณเพ็ญศรี เบาว์เด้น ทีประกอบธุรกิจส่วนตัว ในด้านน้ำมัน และการเปิดร้านอาหาร  จากข้อมูลในช่วงยุค 90 คุณลูกน้ำมีน้องชายหนึ่งคน  คือ คุณเหน่ง เอเดรียน ที่อายุห่างกัน 10 ปี ชื่อ พาเมล่า  ของเธอนั้น มาจากการตั้งชื่อ  ของคุณพ่อ โดยเธอมีชื่อภาษาไทย  ที่ใช้ในช่วงแรกๆ ในการทำงาน เป็นนางแบบวัยรุ่น คือ เกษวรางค์ เบาว์เด้น (สำหรับในปัจจุบัน จากข้อมูลในช่วงหลัง  คุณน้ำใช้ชื่อใหม่ ในวงการดนตรีว่า ศศิกาญจน์ชญา เจริญในเมือง ) สำหรับประวัติส่วนตัวในด้านการศึกษา คุณพาเมล่า เบาว์เด้น  เริ่มต้นการศึกษา ในระดับชั้นประถม ที่โรงเรียนแสนยวิทยาภูมิ จากนั้นจึงย้ายมาศึกษาต่อ ในระดับชั้น ป.2  จนถึงชั้น ป.4 ที่โรงเรียนมารีย์วิทยา จังหวัดนครราชสีมา  โดยเธอย้ายไปศึกษาต่อ โดยเข้าเรียนเกรด 3 ที่โรงเรียนเซเวนเดย์แอดเวนทีส จนสำเร็จการศึกษา ในระดับชั้นมัธยม โดยในช่วงที่เธอนั้น เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิง คุณน้ำพึ่งสำเร็จการศึกษา   ในระดับ อนุปริญญา ในด้าน เลขานุการ จากวิทยาลัยสแตมฟอร์ด (ข้อมูลถึงในปี พ.ศ. 2536 เท่านั้น)เส้นทางสู่วงการบันเทิง  ของคุณน้ำ พาเมล่า เบาว์เด้น เริ่มจากการชักชวน ของรุ่นพี่ท่านหนึ่ง ที่โรงเรียนเซเวนเดย์แอดเวนทีส ที่แนะนำให้เธอนั้น  เริ่มงานนางแบบวัยรุ่น โดยมีงานถ่ายแบบ เป็นผลงานชิ้นแรก  จากการถ่ายแฟชั่น ลงในนิตยสารแพรว จากนั้นในช่วงยุค 80  ที่ผ่านมา ในฐานะนางแบบวัยรุ่น เธอก็มีผลงาน ในด้านการถ่ายแบบ และงานด้านโฆษณา ตามมาอีกมามากมาย โดยมีงานโฆษณาชิ้นเด่นๆ ในช่วงแรก ของอาชีพนักแสดง ดังนี้ ยาสีฟันคอลเกตบลูมินท์โลชั่นโอนีล ลูกอมซานโตส ลูกอมเซียร์ล่า   ผลิตภัณฑ์ดูแลผมบิวตี้ทัช ครีมอาบน้ำบีโอเร สถาบันสอนแต่งหน้า MTI ฯลฯจากงานด้านการถ่ายแบบ ในนิตยสาร Looks  ทำให้คุณลูกน้ำ พาเมล่า เบาว์เด้น ได้รับการติดต่อจากทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3  ให้ลองเข้าไปเทสต์เสียง กับทางบริษํท  SP  ซึ่งเป็นค่ายเทป ในเครือของทางช่อง 3 โดยหลังจากเซ็นสัญญา เป็นนักร้อง นักแสดง กับทางช่อง 3 เธอจึงเริ่มฝึกฝน การร้องเพลง กับ อาจารย์วิภา คงคากุล และ อาจารย์จารุณี นาอาจ  พร้อมกับการเริ่มงาน ในด้านการแสดงด้วยละครโทรทัศน์ แนววัยรุ่น เรื่อง นิยายรักนักศึกษา ก่อนจะมีผลงานการแสดง ในเรื่องอื่นอื่นตามมา เช่น ทะเล้นเอนทรานซ์ หนุ่มสาวชาวหอ   โครงการ 2 และ สี่แผ่นดิน ซึ่งถือเป็นผลงาน ในด้านการแสดง ก่อนการเปิดตัว ในฐานะนักร้อง ของเธอสำหรับรายชื่อ ผลงานการแสดง ส่วนหนึ่งในด้านละครโทรทัศน์ ของ คุณพาเมล่า เบาว์เด้น ในฐานะนักแสดง จากความทรงจำ ของผู้เขียนบลอก มีดังนี้ สี่แผ่นดิน สวรรค์เบี่ยง คลื่นซัดใจ ร่มฉัตร สายรักสายสวาท นิยายรักนักศึกษา (เธอเล่นจำนวน 3 เรื่อง ในละครโทรทัศน์ชุดนี้) ธรณีนี่นี้...ใครครอง สาวน้อยประแป้ง สาวน้อยคาเฟ่ หนุ่มสาวชาวหอ  โครงการ 2  ทะเล้นเอนทรานซ์  กระเช้าสีดา สาปนรสิงห์ นกน้อยในไร่ส้ม ผมไม่อยากเป็นสายลับ จอมใจจอมแก่น  คุณหญิงบานเบอะ ฯลฯและจากผลงานการแสดง ในบทนางเอกนำ ในละครโทรทัศน์  แนวชีวิต เรื่อง คุณหญิงบานเบอะ ที่ออกอากาศ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ในปี พ.ศ. 2538  ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์  ไปเเพร่ภาพ และได้รับความนิยมมาก  ที่ประเทศเวียดนาม  ทำให้ในช่วงยุค 90  ที่ผ่านมานั้น  คุณพาเมล่า เบาว์เด้น  มีโอกาสไปโชว์ตัว และแสดงคอนเสริต์ ที่ประเทศเวียดนาม  ในฐานะดาราไทย ที่ได้รับความนิยม  ที่ประเทศเวียดนาม ในช่วงยุค 90 ที่ผ่านมาสำหรับในด้านผลงานเพลง
ที่สร้างชื่อเสียง ให้กับคุณลูกน้ำ พาเมล่า เบาว์เด้น และถือเป็นผลงานแจ้งเกิด ในวงการบันเทิง ให้กับเธอนั้น  คุณลุกน้ำมีผลงานเพลง ในอัลบั้มชุดแรก ที่ใช้ชื่ออัลบั้มว่า ทอร์นาโด เปิดตัวต่อสื่อมวลชน และออกวางจำหน่าย ทั่วประเทศ ปี พ.ศ. 2535  ผลงานเพลงชุดนี้ เป็นงานเพลง แนว pop-dance จากการสร้างสรรค์ ของบริษัท Sp.Suppamit  และมี คุณอุกฤษณ์ พลางกูร รับหน้าที่โปรดิวเซอร์  ซึ่งจากบทเพลงฮิตอย่าง ทอร์นาโด รู้แล้วอย่าทำ ลางสังหรณ์ ไม่มีน้ำตาให้เธอ อยากหยุดตรงนี้ ในอัลบั้มชุดนี้ ก็ทำให้คุณลุกน้ำ ก้าวสู่ความนิยม จากผู้ชม ผู้ฟังทางบ้าน รวมถึงได้รับการยอมรับ ในฐานะนักร้องเบอร์หนึ่ง ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ของค่าย SP ในช่วงยุค 90 ที่ผ่านมาหลังจากประสบความสำเร็จจากอัลบั้มชุดแรก ในปี พ.ศ. 2535  คุณลูกน้ำ พาเมล่า เบาว์เด้น  มีผลงานอัลบั้มเต็ม ตามมาอีกหลายชุด  ไม่ว่าจะเป็น ระเบิดเวลา  Pretty P และ ฉันไม่ใช่หุ่นยนต์  โดยหลังจากการปิดตัว ของบริษัท SP คุณลุกน้ำก็มีผลงานเพลง ในฐานะนักร้อง ภายใต้สังกัดแกรมมี่ จากการทำงานเพลง ในอัลบั้มชุดที่ 3  และ 4 ของเธอ ก่อนจะมีการปรับเปลี่ยน แนวทางของเพลง  มาเป็นบทเพลง แนว ไทย-ลูกทุ่ง  ตั้งแต่ในช่วงต้นยุค 2000  ที่ผ่านมาในฐานะนักร้องและนักแสดง  คุณลูกน้ำ พาเมล่า เบาว์เด้น  ยังคงมีผลงาน  ในวงการบันเทิง ให้ได้ติดตามชม   กันอย่างต่อเนื่องโดยเธอมีผลงานการแสดง ในด้านละครโทรทัศน์  ในช่วงหลังๆ   อย่าง ผมไม่อยากเป็นสายลับ นอกจากนี้ยังมีงานด้านพิธีกร  ในรายการโทรทัศน์  ทางช่อง 8 Infinity สำหรับในด้านผลงานเพลงนั้น ผลงานเพลงต่างๆ ของคุณน้ำ ที่ได้รับความนิยม ในช่วงหลังนี้ ส่วนใหญ่เป็นผลงานเพลง ในแนวไทย-ลูกทุ่ง   โดยในฐานะนักร้อง เธอมีผลงานเพลงฮิต ฝากไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น โบว์แดงแสลงใจ หอมดอกกระเจียว ฯลฯ
ลำนำเพลง
ขอตอบถ้อย  ร้อยรักไว้   ในใจพี่     ใจน้องนี้   รักพี่   มิแปรผัน
มอบห้องใจ   ทั้งสี่ห้อง   คล้องสัมพันธ์          ปองรักมั่น   พันผูกพี่   ทั้งชีวา

รักพี่แล้ว   จุดจุดจุด   หยุดไว้ก่อน       รักคลายคลอน   ไม่จริงจัง   กระมังหนา
 ต้องยั้งหยุด   จุดจุดไว้   ในอุรา       กลัวพลาดท่า   ภินท์พัง   ทั้งหัวใจ

 รักครั้งก่อน   ยังหลอนใจ   ให้ไหวหวั่น       ขืนหุนหัน   พลันรัก   จักไม่ไหว
ถ้าพลาดพลั้ง   อีกหน   ทนได้ไง               แล้วทำไหม   ต้องผิดหวัง   ทุกครั้งเลย

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=pxLpie2YbyE" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=pxLpie2YbyE</a>


บทประพันธ์มาลัยลูกทุ่ง ของ  ชลนา ทิชากร แห่งบ้านกลอนไทย
คนไทยเรดืโอ102.75สันทรายเชียงใหม่  ต้องขอขอบคุณมาก ๆ นะครับ

[ลุงสน คนสันทราย]

เพลง จดหมายเป็นหมัน 
ขวัญชัย เพชรร้อยเอ็ด  เป็นผู้ขับร้อง
เพลง"จดหมายเป็นหมัน" ประพันธ์โโดย ก้อง กาจกำแหง ขับร้องโดย ขวัญชัย เพชรร้อยเอ็ด
            ด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะของขวัญชัยทำให้เขาไ¬ด้เข้า ไปอยู่กับ วงดนตรีหมอลำของ "ฉวีวรรณ ดำเนิน" จากการแนะนำโดย "เสน่ห์ มนต์อีสาน" ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้า ในช่วงต่อมา รุ่ง โพธารามเจ้าของเพลง "ลาสาวโพธาราม" ก็มีโอกาสได้มาร่วมวงกับ ฉวีวรรณ ดำเนิน ด้วย คนทั้ง 2 เห็นแววของขวัญชัย จึงพาไปพบกับ ก้อง กาจกำแหง หัวหน้าวงดนตรี นักแต่งเพลงและนักจัดรายการวิทยุชื่อดัง ครูก้องก็รับขวัญชัยไว้ในวง เขาอยู่กับครูก้องกว่า 1 ปี โดยทำงานทุกอย่าง แต่ก็ยังไม่ได้บันทึกเสียง จนขวัญชัยเริ่มท้อ จนวันหนึ่งประมาณปี 2519 ครูก้อง กาจกำแหง จะบันทึกเสียงเพลง "จดหมายเป็นหมัน" ซึ่ง ในวงดนตรีมีกฎว่านักร้องจะต้องจับฉลาก ว่าใครจะได้บันทึกเสียง ปรากฏว่า "หนุ่ม เมืองเหนือ" เป็นผู้จับฉลากได้ แต่บันทึกเสียงออกมาแล้วร้องไม่ได้อย่างที¬่ครูก้องต้องการ ครูจึงลองให้ ขวัญชัยบันทึกแผ่นเสียง ผลคือเพลงจดหมายเป็นหมันดังมากภายในปีเดีย¬ว และเป็นการใช้ชื่อ "ขวัญชัย เพชรร้อยเอ็ด" เป็นครั้งแรก พอเพลงดังครูก้องก็ตั้งวงให้ ขวัญชัยร่วมงานอยู่กับครูก้องได้ 3 ปีก็แยกทางกัน เนื่องจากครูก้องต้องการแต่งเพลงอย่างเดีย¬ว ขวัญชัยก็จึงเลิกวงดนตรีไป   ต่อ มาปี 2524 ขวัญชัย ตั้งวงดนตรีอีกครั้ง และประสบความสำเร็จอีกครั้งจากเพลง ยกเมียให้เพื่อน , ตะวันแดงแทงใจ ต่อมาขวัญชัยประสบอุบัติเหตุจากการเดินสาย และเขาได้เริ่มดื่มหนักจนต้องเข้าบำบัดในโ¬รงพยาบาล ทำให้ในที่สุดก็ต้องเลิกวงดนตรีไปโดยปริยา¬ย และเมื่อรักษาตัวจนหายเขากลับมาร้องเพลงอี¬กครั้ง โดยเข้าร่วมกับวงดนตรีของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ แต่จากสุขภาพที่ไม่แข็งแรงจากอุบัติเหตุ และดื่มเหล้าจัด ทำให้เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2528 จากโรคประจำตัว
ลำนำเพลง
เจ้าลืมพี่ แล้วหรือยัง เฝ้านั่งจ้อง
จดหมายของ พี่นั้น รำพันถึง
ส่งให้ไป เดือนก่อน อ้อนคำนึง
แม่เอวกลึง ได้รับไหม ไม่ตอบมา

หรือเจ้ามี คนใหม่ ปล่อยให้พี่
ปวดฤดี ขมขื่น ฝืนดวงหน้า
ลอยกระทง สงกรานต์ ซ่านอุรา
อธิษฐาน แม่คงคา อย่าลาไกล
---------------------------- 

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=vz8BM48F9dA" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=vz8BM48F9dA</a>

(บทประพันธ์คำกลอนโดย พันทอง  แห่งบ้านกลอนไทย)
คนไทยเรดิโอ102.75สันทรายเชียงใหม่ ขอขอบคุณมากครับ

[ลุงสน คนสันทราย]

เพลง สงกรานต์บ้านนา 
รุ่งเพชร  แหลมสิงห์  เป็นผู้ขับร้อง
เพลงดังฝังใจ...จำได้ว่า รุ่งเพช¬ร กับ ชาตรี ศรีชล เริ่มดังไล่เลี่ยกัน รุ่งเพชรดังก่อนหน้าจากเพลงฝนเดือนหก ชาตรี  จากสมัครรักสมัครแฟน คือ หลังจาก ครูสุรพล  เสียชีวิต ชาตรี มาสะดุดตอนโดนจับหนีทหาร แต่รุ่งเพชร ได้ครูไพบูลย์ บุตรขัน กระทุ้งด้วยเพลงดีๆต่อเนื่อง  เลยติดลม ต่อมา จับเพลง สงกรานต์ต่อ เลยเป็นเจ้าพ่อเพลงสงกรานต์ ช่วงนั้นลุงสนเริ่มวัยรุ่นตอนต้น ฟังเพลงสงกรานต์บ้านนา จากเครื่องขยายที่วัดเปิดทีไร จิตใจมันพองโต เป็นสัญญาณว่า งานสงกรานต์เริ่มแล้ว จะได้ไปเที่ยวดูเขาเล่นรำวง แห่พระ สาดน้ำกันสนุกสนานอีกแล้ว  สงกรานต์เป็นประเพณีที่ดีงาม สมัยก่อนหนุ่มสาวก็มีมารยาทในกา¬รละเล่นต่างๆตามวัฒนธรรมพื้นบ้า¬นที่สนุก และเป็นเทศกาลที่หนุ่มสาวได้พบกัน มีนัดกันเล่นตามลานวัดหรือเล่นกันตามหมู่บ้าน หนุ่มสาวเล่นกันเพื่อความสนุกสน¬านทั้งมีคุณธรรมและจริยธรรมที่ดีงามในการเล่น  ปัจจุบันไม่มีแล้ว มีแต่เมาแล้วก็ยกพวกตีกัน หรือไม่ก็มีการเล่นและการแต่งกา¬ยที่ไม่ใช่ธรรมเนียมของไทยเลย อยากให้สังคมไทย กลับไปเป็นเหมือ¬นเมื่อก่อนจังเลย 
ในบทเพลง ท่อนแยก เยี่ยมมาก ๆ ลืม..น้ำคำ..ของพี่เสียหม๊ด... พี่นี่คงอ๊ด..เที่ยววันสงกานต์เดื¬อนอ้าย...ย่างเข้าเดือนยี่..แล้วน้อง¬หนีพี่ไปไหน...รึเจ้าไปมีแฟนใหม่...ลื¬มเราวิ่งไล่ในวันสงกานต์....... เเค่นี้ก็ซึ้งเเล้ว
ลำนำเพลง
ประเพณี ที่ไทย สมัยก่อน
เล่นแอบมอญ ซ่อนผ้า อุราไหว
ตรุษสงกรานต์ บ้านนา ป่าพงไพร
ต่างวิ่งไล่ วิ่งหลบ ยามพบกัน

มาบัดนี้ น้ำคำ ไม่จำจด
เจ้าลืมหมด จากใจ ไม่สุขสันต์
มีแฟนใหม่ ในกรุง รุ้งลาวัลย์
พี่จาบัลย์ ขาดคู่เคล้า เศร้าซมซาน
---------------------------

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=QoaYtimiG58" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=QoaYtimiG58</a>

(บทประพันธ์คำกลอนโดย พันทอง  แห่งบ้านกลอนไทย)
คนไทยเรดิโอ102.75สันทรายเชียงใหม่  ต้องขอขอบคุณมาก ๆ นะครับ

[ลุงสน คนสันทราย]

เพลง น้ำกรดแช่เย็น 
รังษี เสรีชัย  เป็นผู้ขับร้อง
รังษี เสรีชัย เป็นนักร้องลูกทุ่งชาย ชื่อดัง ที่มีเสียงดี หน้าตาหล่อเหลา และมีผลงานเพลงเป็นที่รู้จักของแฟนเพลงทั่วไปหลายเพลง รังษี เสรีชัย โด่งดังมาจากเพลง " น้ำกรดแช่เย็น"   เมื่อตอนอายุประมาณ 19 ปี เพื่อนคนหนึ่งได้พารังษี เสรีชัยไปสมัครประกวดร้องเพลงที่จัดโดยสวนอาหารแห่งหนึ่งชื่อ " ตุ๊กตา " ปรากฏว่าการประกวดจบลงที่แค่รอบ 2 โดยไม่มีการแจ้งสาเหตุ แต่ในระหว่างนั้น สรรเสริญ รุ่งเสรีชัย ได้เห็นแววดังของนักร้องหนุ่ม จึงชักชวนรังษี มาบันทึกแผ่นเสียง พร้อมกับตั้งชื่อให้เขา โดยชื่อนั้นนำมาจากชื่อค่ายภาณุรังษี ส่วนนามสกุลนั้นก็นำมาจากนามสกุล รุ่งเสรีชัยของเขาเอง          รังษีบันทึกเสียงในผลงานเพลงชุดแรกรวม 14 เพลง และระหว่างที่รอการโปรโมตให้เพลงติดตลาด รังษีได้กลับไปบวชเป็นพระ ระหว่างนั้นเพลง " น้ำกรดแช่เย็น " และ "ร้องไห้ปลายนา" ของเขาก็เกิดดังนั้นมา นายทุนจึงเตรียมตั้งวงดนตรีรอ และเมื่อรังษีสึกออกมา ก็ได้เริ่มเดินสายทันที และออกแสดงครั้งแรกวันที่ 31 ธันวาคม 2525 ที่วัดท่าแร้ง ปรากฏว่า ได้รับการต้อนรับจากแฟนเพลงล้นหลาม เพราะแม้จะเก็บค่าชมคนละ 10 - 15 บาท ก็ยังเก็บเงินได้ถึง 2 แสนบาท คิดเป็นจำนวนผู้ มาชมก็ราวหมื่นคน รังษี เสรีชัย ได้แจ้งเกิดในถนนสายลูกทุ่งเต็มตัว   รังษีออกเดินสายอยู่นานราว 3 ปี ระหว่างนั้น รังษีก็มีผลงานเพลงคู่ร่วมกับศิลปินร่วมค่ายอย่างศิรินทรา นิยากร ออกมาด้วย ก่อนที่จะออกมาทำวงเอง และมีผลงานตามมาอีกหลายชุด
ลำนำเพลง
           หัวอกตรม ขมขื่น ฝืนเต็มที่
ฟังวจี แจ่มใส ไหวสะท้าน
ฝ่าแดดฝน ทนเอา เศร้ามานาน
เจอน้ำคำ ฉ่ำหวาน ซ่านดวงจินต์
        น้องยื่นน้ำ เย็นให้ พี่ใช้ดื่ม
สุขใจปลื้ม ลืมคิด พิษทั้งสิ้น
เป็นน้ำกรด รดราด ขาดชีวิน
แช่เย็นกิน ดื่มด่ำ ช้ำสุดทน
------------------------

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=ls85YPv81t0" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=ls85YPv81t0</a>

(บทประพันธ์คำกลอนโดย พันทอง  แห่งบ้านกลอนไทย)
คนไทยเรดิโอ102.75สันทรายเชียงใหม่  ต้องขอขอบคุณมาก ๆ นะครับ

[ลุงสน คนสันทราย]

เพลง รักคนชื่อน้อย 
เพชร โพธาราม  เป็นผู้ขับร้อง
ผู้แต่งเพลงนี้คือ สุชาติ เทียนทอง
สุดยอดลูกทุ่งเสียงสวรรค์ของเมื¬องไทยอีกคนหนึ่งเหมาะสมกับชื่อ"¬เพชร โพธาราม"
(พ่อไวพจน์เขาให้รอฟังข่าวอีกที¬ว่าจะเรียกมาเมื่อไหร่ แต่กว่าจะประกาศผลมันก็มืดคํ่าแ¬ล้ว ไม่มีรถกลับบ้าน เลยขอกับไวพจน์ว่าจะนอนค้างคืนที่บ้านก่อน ตอนนั้นแกอยู่กับแม่ยายญาติๆ แกก็หลายคนผมก็มานอนอยู่นอกชานบ้าน ด้วยความที่บ้านเราไม่มีลูกผู้ห¬ญิง เราต้องทำงานบ้านเองผมเลยช่วยเข¬าทำงานบ้าน ถูบ้าน กวาดบ้าน ทำกับข้าวยกของ ไวพจน์เขาเห็นเราขยัน เขาเลยบอกว่า "ไอ้ดำ" มึงไม่ต้องกลับบ้านแล้วให้อยู่กับกูเลย ช่วยงานบ้าน)
"ผมเรียนจบมาตอนอายุ 18 - 19 ปี ญาติๆ อยากให้สอบเข้าเป็นทหารแต่ตัวเล็ก เลยไม่ได้เป็นทหาร ความที่ชอบร้องเพลงเลยหันมาร้องเพลงแทน จึงให้อาพาไปฝากเป็นนักร้องกับศักดิ์ โกศล และโฆษก อา รีวรรณ  โดยใช้ชื่อว่า พรเพชร โพธาราม อยู่กับวงได้ 2 - 3 ปี พอดีตอนนั้น ( ปี 2510 ) ไวพจน์ เพชรสุพรรณ เขาแยกตัวออกมา จากวงดนตรี "รวมดาวกระจาย" ของครูสำเนียง ม่วงทอง มาตั้งวงดนตรีของตัวเอง เขาประกาศผ่านวิทยุว่าต้องการรับสมัครนักร้องหลายคน ให้ไปสมัครที่ที่สถานีวิทยุวัดดงมูลเหล็ก ที่ครูไวพจน์จัดรายการอยู่ ช่วงนั้นนักร้องเขาเยอะมากทั้ง ยงยุทธ  เชียวชาญชัย , การะเวก เสียงทอง ,  ชัยชนะ บุญนะโชติ คนไปสมัครกันเป็นสิบเลย เขาให้ร้องทีละคน ผมร้องเพลงของไพรวัลย์ ลูกเพชร แล้วชนะเลิศ" เพชร โพธาราม ในวัย 55 ปี บอกจุดเริ่มต้นของการก้าวเข้าสู่วงการเพลงลูกทุ่ง ด้วยนํ้าเสียงที่ไพเราะทำให้ได้เข้าเป็นสมาชิกวงดนตรีไวพจน์นับจากนั้นมา "พ่อ ไวพจน์เขาให้รอฟังข่าวอีกทีว่าจะเรียกมาเมื่อไหร่ แต่กว่าจะประกาศผลมันก็มืดคํ่าแล้ว ไม่มีรถกลับบ้าน เลยขอกับไวพจน์ว่าจะนอนค้างคืนที่บ้านก่อน ตอนนั้นแกอยู่กับแม่ยาย ญาติๆ แกก็หลายคน ผมก็มานอนอยู่นอกชานบ้าน  ด้วยความที่บ้านเราไม่มีลูกผู้หญิง เราต้องทำงานบ้านเอง ผมเลยช่วยเขาทำงานบ้าน ถูบ้าน กวาดบ้าน ทำกับข้าว ยกของ ไวพจน์เขาเห็นเราขยัน เขาเลยบอกว่า "ไอ้ดำ" มึงไม่ต้องกลับบ้านแล้ว ให้อยู่กับกูเลย ช่วยงานบ้าน แบกของ เมื่อก่อนซอยวันดงมูลเหล็กมันแคบ ต้องขนเครื่องดนตรีไปขึ้นรถหน้าปากซอย" จากนั้นเพชร ก็ใช้ชีวิตอยู่กับวงดนตรีไวพจน์ เพชรสุพรรณ เรื่อยมา ซึ่งไวพจน์ก็สอนเขาทั้งเรื่องการใช้เสียง การร้องเพลงให้เข้ากับจังหวะ แต่หนทางใช่จะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะหน้าที่หลักคือแบกของมากกว่าร้องเพลง  "ช่วง นั้นได้ร้องเพลงบ้าง ไม่ได้ร้องเพลงบ้าง ตอนนั้นพ่อไวพจน์ตั้งชื่อให้ว่า "เพชร โพธาราม" อยู่กับวงไวพจน์ 4 – 5 ปี มาวันหนึ่ง ในปี 2512 วงไปแสดงที่จังหวัดสุโขทัย พอดีมีเหตุการณ์ไฟไหม้ ตำรวจเขากันรถไว้นานมาก ทุกคนนั่งอยู่ในรถบัสกันหมดทั้งไวพจน์ และครูจิ๋ว พิจิตร ไวพจน์เลยแต่งเพลง "สุโขทัยระทม" ขึ้นมา พอมาถึงกรุงเทพฯ ก็เลยให้อัดเพลง "สุโขทัยระทม" ซึ่งถือเป็นเพลงแรกในการเป็นนักร้อง ก็ได้ร้องเพลงมากขึ้น พอมาปี 2514 ไวพจน์ร่วมกับ ทองใบ รุ่งเรือง แต่งเพลง "ต.ช.ด.ขอร้อง" ให้ร้องอีกเพลงหนึ่ง แต่ตอนนั้นยังไม่ค่อยดัง"  เพชร เล่าถึงความดังของเพลง "ต.ช.ด.ขอร้อง" ในเวลานั้นว่า ช่วงแรกยังไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่พอดีช่วงนั้น ต.ช.ด.มีบทบาทมากตามแนวชายแดนทำให้คนขอเพลงนี้ทางคลื่นวิทยุ "ตอน นั้น ต.ช.ด.เขารับผิดชอบงานด้านชายแดนอยู่ คนฟังในต่างจังหวัดเขาชอบเพลงนี้ เลยขอมาทางนักจัดรายการ ทีนี้ก็เลยเปิดกันใหญ่เลย จนสถานีวิทยุในกรุงเทพฯ มาเปิดอีก เราก็ไม่รู้ตัวว่าเพลงมันดัง ไวพจน์เขาบอก ว่าเพลงดังแล้วนะ พอไวพจน์ประกาศหน้าเวที ผมก็ขึ้นร้องเพลงนี้ได้ พวงมาลัยเต็มเลย ถึง ได้รู้ว่าเพลงเราดังจริงๆ"  เมื่อเพลงดังเพชร โพธารามจึงแยกตัวออกมาตั้งวงดนตรีเป็นของตัวเองเหมือนนักร้องคนอื่นๆ เขาได้ร่วมกับพี่ชายตั้งวงดนตรี โดยได้ฤกษ์เปิดวงเมื่อเดือนตุลาคม  2514 วงดนตรีได้รับงานยาวเหยียด แทบจะไม่มีวันว่าง ซึ่งความสำเร็จที่เกิดขึ้นมา จากความสามารถอันสูงส่งของนักร้องหนุ่มผู้มีลีลาการร้องเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ตัวของเขาเอง สมกับคำที่ว่า”นักร้องร่างเล็กเสียงเด็ด เพชร โพธาราม “  "พอ เพลงดัง ก็ลาออกมาตั้งวงดนตรี "เพชร โพธามราม" เป็นของตัวเอง  สมชาย ทองขาว เขาก็จองตัวเดินสายกันเยอะเลย ต่อมาก็มาอัดเพลง "รักคนชื่อน้อย" เพลงนี้แต่งโดย สาธร จินดา ห้างเสียงสยามเขาจ้างอัด  ผมทำวงดนตรีอยู่ 7 - 8 ปี ช่วงนั้นนักร้องรุ่นใหม่ๆ เกิดเยอะ เช่น สายัณห์ สัญญา กำลังดังมากเลย ก็รู้สึกว่ามันอิ่มตัวก็เลยเลิกวง มาอยู่กับวงดนตรีพุ่มพวง ดวงจันทร์  เขารับนักร้องดังมาอยู่ในวงเยอะเลย เช่น  มนต์รัก ขวัญโพธิ์ไทย , เสกศักดิ์ ภู่กันทอง ก็อยู่มานาน"  สาเหตุ ที่ออกจากวงการไปนานคือเมื่อ วันที่ 1  กุมภาพันธุ์  พ.ศ.2527 วงดนตรีของ “พุ่มพวง  ดวงจันทร์”  ไปทำการแสดงในงานฝังลูกนิมิต ที่วัดบางขุนไกร อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี  ในขณะที่วงของ “สลักจิตร  ดวงจันทร์” น้องสาว  ไปทำการแสดงที่วัดปรักเขว้า  อ.พนมทวน  จังหวัดกาญจนบุรี  นักร้องจากวงพุ่มพวง 3 คน คือ “เพชร โพธาราม”  เสกศักดิ์  ภู่กันทอง”  และ “มนตรัก  ขวัญโพธิ์ไทย” ถูกให้ไปร้องให้กับวง “สลักจิตร” ก่อนในช่วงหัวค่ำ  เมื่อ ร้องเสร็จประมาณ  3  ทุ่ม  ทั้ง 3 ก็รีบเดินทางไปร้องให้กับวงของพุ่มพวง ที่เพชรบุรี  โดย “มนต์รัก” เป็นผู้ขับ “เสกศักดิ์”  นั่งเบาะหน้าซ้ายมือคนขับ  “เพชร  โพธาราม” กับลูกเมีย นั่งเบาะหลัง  มนต์รักขับรถด้วยความเร็วสูงเพื่อหวังไปให้ทันงาน  ประมาณ 4 ทุ่มกว่า ก็เข้าสู่ตัวเมืองเพชรบุรี  ก่อนถึงทางแยกเข้าวัดเขาตะเครา เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น  เมื่อ “เพชร  โพธาราม” มองเห็นร่างคนนอนอยู่กลางถนน  “เพชร” ตะโกนร้องบอก “มนต์รัก” ได้คำเดียวว่า “เฮ้ย คน”   “มนต์รัก” หักพวงมาลัยรถไปทางซ้าย  แต่ล้อรถเกยร่างคนเสียหลักหมุนแฉลบไปทางขวา เป็นจังหวะเดียวกับที่รถบรรทุกผักวิ่งสวนมา  รถทั้งสองคันพุ่งประสานงาเสียงดังสนั่น  ผล “มนต์รัก ขวัญโพธิ์ไทย” “เสกศักดิ์  ภู่กันทอง”  เสียชีวิตคาที่ส่วน  “เพชร  โพธาราม”  และลูกเมีย ปลอดภัย  และ หลังจากนั้นมาแม่ของเขาก็เลยให้กลับมาอยู่บ้านที่โพธารามจนทุกวันนี้ ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับวงการอีกเลย  “ส่วน งานร้องเพลงก็ยังรับงานร้องเพลงทั่วไป กับเปิดร้านอาหาร "เพชร โพธาราม" ก็พอมีรายได้ใครจะจ้างไปร้องเพลงก็โทรได้ที่เบอร์ 08-7151-5805 ก็ยินดีไปร้องครับ"
ลำนำเพลง
ไปหลงรัก ผู้หญิง จริงชื่อน้อย
เฝ้ารอคอย จอมใจ ให้สับสน
ไม่แลเหลียว เลยหนอ ท้อกมล
ไม่ยินยล หลบหน้า น้ำตานอง

น้อยตัดรัก จากไป ใจหมองหม่น
เยื่อใยตน ด้นดั้น แสนหวั่นไหว
แม้ตัดบัว ยังเหลือ เยื่อข้างใน
น้อยตัดใจ ตัดสวาท ขาดเมตตา
-------------------------------

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=b-yu7bSnHhU" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=b-yu7bSnHhU</a>

(บทประพันธ์คำกลอนโดย พันทอง  แห่งบ้านกลอนไทย)
คนไทยเรดิโอ102.75สันทรายเชียงใหม่ ขอขอบคุณทุกท่าน
ที่มีบทบาทต่อกระทู้นี้ ด้วยความเคารพครับ

[ลุงสน คนสันทราย]

ก่อนอื่นใดต้องกราบ อ.ธีระพงษ์ โสดาศรี แห่งลำนำเพลงรัก กรมประชาสัมพันธ์ ด้วยความเคารพครับ
และขออนุญาตนำร้อยกรองเพราะ ๆ ของอาจารย์มานำเสนอครับ
บทเพลงนี้ชื่อว่าสั่งฟ้าฝากดินครับ
แน่นอนครับ บทเพลงนี้ คำร้อง และ ทำนอง เป็นผลงานของ อ.ประเทือง บุญญประพันธ์
ส่วนผู้ขับร้องนั้นมีหลายท่าน นำมาขับรอง แต่ละท่านที่ร้องไว้มีความไพเราะทุกเวอร์ชั่น
ไม่ว่าจะเป็น ลุง สุเทพ วงศ์กำแหง ,ลุง ชรินทร์ นันทนาคร ขับร้อง (บันทึกเสียงครั้งแรก พ.ศ.2504) , ลุง ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา ,
หรือ เศรษฐา ศิระฉายา.
ส่วนลำนำเพลงรักบทนี้ อ.ธีระพงษ์ โสดาศรี เป็นผู้ประพันธ์ครับ
สั่งฟ้าฝากดิน
ยามที่พี่     อ้างว้างมิตร     จิตปั่นปวน
น้องจากไป     ใจพี่หวน     ครวญคร่ำหา
รอยแผลเก่า     เจ้าลืมมัน     คำสัญญา
เรียมต้องหลั่ง     น้ำตา     ยามราตรี
ใจไม่คิด     คำนึกหรอก     ว่าดอกฟ้า
จะลืมรัก     ดอกหญ้า     ด้อยศักดิ์ศรี
เพียงฝากลิ้น     ลวงดิน     เชื่อวจี
ดอกฟ้าหนี     ลืมรักเคย     เชยชื่นใจ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=LkeA2mOwwI0" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=LkeA2mOwwI0</a>

[ลุงสน คนสันทราย]

 

  เพลง : ถอนคำสาบาน                                                                                                                               ศิลปิน : สันติ ดวงสว่าง  ขับร้อง                                                                                                                        อัลบั้ม : พิเศษ 2 ทศวรรษ เจ้าพ่อเพลงหวาน                                                                                               คำร้อง ทำนอง : เฉลียว สุขโชค
เรียบเรียง : เรืองยศ พิมพ์ทอง

                         ครั้งหนึ่ง  หน้าท้าวสุรนารี  เคยได้มี  หนุ่มสาวคู่เคียงสาบาน   ต่างว่าจะรัก   ไม่เปลี่ยนแปรชั่วกาล  หากใครผิดคำสาบาน   ให้มีอันเป็นไป   พ้นผ่านครั้งนั้น ไม่นานต่อมา   โอ้อนิจจา  ฝ่ายสาวก็แปรผันใจ กลับมอบความรัก   ให้กับชายอื่นไป   หนุ่มหนึ่งเขาตรอมใจ  ชอกช้ำมาหาย่าโม    * หนุ่มคนนั้น ก็คือฉันนี่เอง อยากจะตะเบ็ง  เปล่งเสียงร้องไห้..โฮ  มาถอนสาบาน  ต่อหน้าย่าโม  ด้วยใจสุดช้ำเซโซ   เหมือน...คนจวนสิ้นใจ  ย่าโปรด...ยกโทษให้เธอไปดี  อย่าให้ มีขื่นขมระทมอันใด   ลูกสุดแสนรัก  อยากให้เธอสุขใจ  ย่าโกรธแค้นเคืองใด  ลูกขอรับไว้ผู้เดียว (ซ้ำ **)

ลำนำเพลง
กราบเท้าย่า   สาบาน   พยานรัก              เพื่อประจักษ์   จะรักมั่น   ไม่หวั่นไหว
ถ้าวันหนึ่ง    ใครสลัด   ตัดรักไป               จงมีอัน      เป็นไป   ในทันที
        เมื่อคนรัก   ตีจาก   มาผลักใส                ทิ้งลูกให้      เศร้าจาบรรณ์   ในวันนี้
ลูกขอถอน   คำสาบาน   วันวานมี                  ทุกข์โทษที่   มีย้อนกลับ   ลูกรับเอง

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=bUUcyJYfFtk" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=bUUcyJYfFtk</a>

[ลุงสน คนสันทราย]

เพลง    คืนอำลา   
ศิลปิน    ทูล ทองใจ (เจ้าชายรัตติกาล)  ขับร้อง
คำร้อง/ทำนอง  บุญสม ณ อยุธยา  (หรือ  พร ภิรมย์   นั่นเอง)
ดนตรี   มงคล  อมาตยกุล
คืนอำลา

คำร้อง ทำนอง พร ภิรมย์
ขับร้องต้นฉบับ ทูล ทองใจ

เจ้าอย่าผลักไส เคียงหนุนอุ่นไอ   น้องเคยให้พี่หนุนตักนอน
แล้วคืนนี้ไฉนกลับงอน   ขอเพียงตักเจ้าหนุนอุ่นนอน
เนื้อเจ้าอ่อนนอนหนุนจนสาง   แก้วตาอย่าอาย เคียงชิดติดกาย
น้องเบนบ่ายไฉนเล่านาง   หอมแก้มสาวไม่สิ้นกลิ่นจาง
หอมทรวงเจ้าอวลเคล้ากลิ่นปราง  หอมไม่สร่างจุมพิตติดใจ

ทรวงละมุนหนุนเนื้อนวลครวญอ้อน  อย่าด่วนตัดรอนหนุนนอนไม่ช้ำเท่าไร
คืนอำลาสัญญาให้น้องแน่ใจ  เจ้าทำหวงตัวไปได้เห็นใจพี่เถิดแก้วตา

 ก่อนพรากจากไป พี่ขอถอดใจ  ไว้จนกว่าจะย้อนกลับมา
ขอฝากฝังความหลังก่อนลา  น้องจงโปรดได้คิดเมตตา  น้องจงอย่าให้พี่ผิดหวัง
ลำนำเพลง
เจ้าอย่าได้ ผลักไส ใจของพี่
เลยคนดี ที่รัก ขอพักก่อน
ตักอุ่นอุ่น คุ้นกลิ่น ที่ชินนอน
ไม่อยากจร จากเจ้าไป ไกลขวัญตา

ทรวงละมุน หนุนเนื้อนวล เฝ้าชวนอ้อน
อย่าตัดรอน วอนขอ ต่อเถิดหนา
อยากฝากฝัง รังรัก อีกสักครา
โอ้น้องจ๋า อย่าให้พี่ นี้ผิดหวัง..
---------------------------------
(บทประพันธ์คำกลอนของ  พันทอง)

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=8RhihWw5H4Q" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=8RhihWw5H4Q</a>

[ลุงสน คนสันทราย]

เพลง : ซมซาน
ศิลปิน : ชาตรี ศรีชล
ชาตรี ศรีชล เป็นนักร้องที่มากความสามารถ อย่างแท้จริง แต่งเพลงเอง ประพันธุ์เอง ติดเหล้าเป็นอย่างมาก ถ้าได้ดื่มเหล้า จะแต่งเพลงได้เก่งเป็นยิ่งนัก สุดท้ายก็มาตาย เพราะเหล้านี้เอง ชาตรี ศรีชล เป็นชาวชลบุรี บ้านอยู่ ต.นากระรอก อ.พนัสนิคม  ดังด้วยหลายเพลง เช่น  ช้ำรักจากเมืองชล สมัครรักสมัครแฟน สาวผักไห่ ฯลฯ                          เสียชีวิตด้วยวัยประมาณสี่สิบเศ¬ษ นัยว่า เพราะ เหล้า กับกัญชา  เป็นนักร้องที่ร้องเพลงขึ้นนาสิ¬กได้อย่างมีเสน่ห์มากๆ  อารมณ์เพลงลูกทุ่งอย่างชัดเจนที่¬่สุดยอดที่สุด คือ เเต่งเอง ร้องเอ¬ง สุดยอดมากๆ ครับ
ลำนำเพลง
ทรมาน ซานซม จนขมปี๋
ขาดเมตตา ปรานี หนีอกหัก
พี่ไกลบ้าน ไกลสถาน ซมซานนัก
ขอยอดรัก สงสาร วานเห็นใจ

ซมซานเรา ซมซาน จนซ่านจิต
ขาดคู่คิด ชิดแนบ แทบหมองไหม้
ขาดเนื้อทอง ยอดชู้ คู่หทัย
โปรดเห็นใจ พี่บ้าง สงสารเถิดเอย
(บทประพันธ์คำกลอนของ  พันทอง)


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=JraAv5kJhrY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=JraAv5kJhrY</a>

[ลุงสน คนสันทราย]

เพลง    ขันหมากเศรษฐี   
เสกศักดิ์ พู่กันทอง  ขับร้อง
คำร้อง/ทำนอง: ไพฑูรย์ ขันทอง
คนรวยเหมือนเทว¬ดา...คนจนคนป่าคนดง...จะรักจะหลงเขาคงไม¬่ได้...อยากเกิดมาจนโธ่คน¬อย่างเรา.....
คำร้อง เสียงอักขระ น่ายกย่องที่สุด  นักร้องสมัยนี้ คุณภาพ จริงๆ 
ลำนำเพลง
หลับตาลง อย่างไร เมื่อใจเจ็บ
หนุ่มกรุงเทพ แย่งแฟน แค้นเสียหนัก
ขันหมากของ เศรษฐี ที่หมายภักดิ์
ฉันอกหัก รักลวง กลวงร้าวรอน

เกิดมาจน ทนช้ำ แสนต่ำต้อย
คนป่าดอย รักเซ่อ เก้อหลอกหลอน
พรุ่งนี้แล้ว แก้วตา เขาคว้านอน
ขออวยพร พี่ชาย พ่ายคนรวย
---------------------------------------
(บทประพันธ์คำกลอนของ  พันทอง)

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=G748RNn5u9E" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=G748RNn5u9E</a>

[ลุงสน คนสันทราย]

เพลง  รักสามเส้า เราสามคน
ศิลปิน: หญิง ธิติกานต์ อาร์สยาม
อัลบั้ม: กุญแจชีวิต เข็มทิศหัวใจ
คำร้อง/ทำนอง  เอริโด้ อาร์สยาม
นักแต่งเพลง ฝีมือดี นาม เอริโอ้ อาร์ สยาม นักดนตรีอาชีพที่มีไฟและมีฝัน
มุ่งมั่นอยากมีอัลบั้มเป็นของตนเอง  ใช้เวลาสะสม บ่มเพาะประสบการณ์ทางดนตรี
เป็นทั้ง นักร้อง ไกด์ใ ห้กับศิลปิน ค่ายอาร์สยาม  เกือบทุกอัลบั้ม  ทำงานเบื้องหลัง
แต่งเพลงดังๆ  มาแล้วมากมาย อาทิเช่น เพลงเจียมตัว,
 โปงลาง(มาแล้วจ้า) ของโปงลางสะออน,  รักสามเส้าเราสามคน ของหญิง ธิติกานต์,
 อยากเป็นคนที่เธอต้องการ ของ ทรงกรด ฌามา   และยังเป็น ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ
ของศิลปินอื่นอีกหลายคน   ไม่ว่าจะเป็น บ่าววี , ทราย     มีผลงานสร้างชื่อ
เป็นที่รู้จัก กับ อัลบั้มแรก “เอเซียร์”  กับเพลง รักคนมีแฟน และ สาวสก๊อย
ส่วนทุกวันนี้  ยังคงเล่นดนตรีตามผับ  และล่าสุดก็มี  ซิงเกิ้ล  ใหม่กับเพลงมันส์ ๆ
แนวใหม่ในสไตล์อินดี้
รักสามเส้า หมายถึง ความสัมพันธ์ที่โรแมนติก ที่เกิดขึ้นระหว่าง บุคคล 3 คน
เกิดขึ้นจากการมี บุคคลที่สาม เข้ามาเกี่ยวข้อง ระหว่างความสัมพัน¬ธ์ ของคนสองคน 
โดยทั่วไป มีความหมาย โดยนัยเกี่ยวกับ ความไม่สมหวัง ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หร¬ือ
บุคคลทั้งหมด ที่เกี่ยวข้อง ในสังคมของ สามีภรรยาเดียว ความรักสามเส้ามักจะเกิดขึ้น
และจบลง ด้วยเร็ว   เนื่องจาก มีกฎหมาย และ ประเพณี  เป็นข้อกำหนด  สำหรับความรัก
ของบุคคลที่สาม ดังนั้น คนที่มาทีหลัง ก็ต้องยอม เป็นฝ่ายเดินจากไป
ลำนำเพลง
หลงรักคน...มีแฟน...แม้นไม่ผิด     
แต่ให้คิด...น้ำใต้เข่า...เอาหรือไม่
เป็นแฟนเก็บ...หรือรอเป็น...คนถัดไป 
พอทุกข์ใจ...รักสามเส้า...เราสามคน...

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=NNQzNuIUMgE" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=NNQzNuIUMgE</a>