เนื้อเค็มต้มกะทิ เป็นอาหารพื้นบ้านไทย ๆ ที่หาทานยาก มักใช้เนื้อแดดเดียวหรือเนื้อเค็มมาต้มกับน้ำกะทิจนเข้าเนื้อและเปื่อยนุ่ม ปรุงให้มีรสออกเปรี้ยว เค็มและหวาน ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดงซอยหรือพริกขี้หนูเพิ่มความจัดจ้านส่วนประกอบ
เนื้อเค็ม หรือ เนื้อแดดเดียว 300 กรัม (เปลี่ยนเป็นหมูเค็มได้)
กะทิ 3 ถ้วย (คั้นหัวกะทิ 1 ถ้วย – หางกะทิ 2 ถ้วย)
หอมแดงซอย 20 หัว
น้ำตาลปีบ 2-3 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร และ น้ำปลา (มากน้อยตามชอบ)
พริกขี้หนูเม็ดเล็ก
ใบมะกรูดฉีก
ใบมะกรูดซอย สำหรับโรยหน้า
วิธีทำ
ย่างเนื้อเค็ม แล้วทุบให้นิ่ม แล้วฉีกเป็นเส้น หรือหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ตามภาพก็ได้
นำหางกะทิใส่หม้อ ใส่เนื้อเค็มและหอมแดงลงเคี่ยวกับหางกะทิด้วยไฟอ่อน ๆ เคี่ยวจนงวด
(ถ้าใช้กะทิชนิดกล่อง ถ้าหัวกะทิข้นมาก ให้นำหัวกะทิผสมกับน้ำเล็กน้อย เพื่อใช้เป็นหางกะทิ)
หรือเคี่ยวจนกวาเนื้อเค็มจะเปื่อย แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา และเกลือป่น, น้ำตาลปีบ ชิมรสตามชอบ
ใส่พริกขี้หนู ฉีกใบมะกรูดใส่ไป ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ไม่ควรให้พริกขี้หนูสุกมากเกินไป ดับไฟเตา
ตักเนื้อเค็มต้มกะทิใส่ชาม โรยใบมะกรูดซอย นำเสริฟขณะที่ยังร้อน ๆ ถ้าปล่อยให้เย็นตัวจะขึ้นไข
หมายเหตุ - เนื้อต้มกะทิแบบนี้รสชาติคล้ายหลนกะทิ จึงรับประทานกับผักสดต่าง ๆ ได้นะคะ